กะเหรี่ยงชวนเมียร่วมวงเหล้า เมาได้ที่ให้เพื่อนข่มขืนแล้วฆ่า

กะเหรี่ยงชวนเมียร่วมวงเหล้า เมาได้ที่ให้เพื่อนข่มขืนแล้วฆ่า ก่อนตามไปข่มขืนซ้ำเองอีก

สังคม

สามีกะเหรี่ยง สัญชาติเมียนมา ชวนเมียร่วมวงสุราจนเมาแล้วให้เพื่อนเอาไปข่มขืน ก่อนตัวเองตามไปข่มขืนซ้ำ ทำคนทั้งหมู่บ้านผวาหนัก ไม่กล้าออกจากบ้าน พ.ต.อ.สุพจน์ นวรัตนารมย์ ผกก.สภ.อุ้มผาง, พ.ต.ท.ศตพล เอี่ยมโซ้ รอง ผกก.สส.สภ.อุ้มผาง, พ.ต.ต.บุญเลิศ กิ่งโคกกรวด สว.สส.สภ.อุ้มผาง พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.อุ้มผาง อ.อุ้มผาง จ.ตาก ได้นำตัว นายชิตู่ ไม่มีนามสกุล อายุ 19 ปี และนายน้อย ไม่มีนามสกุล อายุ 32 ปี ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ด้วยกล่าวหาว่า “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และร่วมกันกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายจนถึงแก่ชีวิต และเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาพักอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” เหตุเกิดที่บริเวณกระท่อมไม่มีเลขที่ ในป่าริมทางเข้าหมู่บ้านเซอทะ หมู่ที่ 6 ต.หนองหลวง อ.อุ้มผาง

ร.ต.อ.กำธร อ่อนทอง พนักงานสอบสวน สภ.อุ้มผาง ได้รับแจ้งเหตุพบศพหญิงสาวทราบชื่อภายหลังว่า นางหน่อฉิ ไม่มีนามสกุล อายุ 35 ปี สัญชาติเมียนมา นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณป่าริมทางเข้าหมู่บ้านเซอทะ จึงไปตรวจสอบ พบศพสภาพศพถูกรัดคอด้วยถุงย่าม และมีบาดแผลตามร่างกาย ศพนอนหงาย สวมผ้าถุงสีแดง และเสื้อยืดคอกลมสีแดง จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นทราบ และได้ร่วมกับแพทย์โรงพยาบาลอุ้มผาง ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดตาก ไปชันสูตรพลิกศพ และตรวจสถานที่เกิดเหตุแล้ว พบว่านางหน่อฉิมีร่องรอยการถูกกระทำชำเรา และมีบาดแผลถูกทำร้ายร่างกาย

จากการสอบสวนพยานบุคคล และผู้เห็นเหตุการณ์ ทราบว่าคนที่ทำร้ายและข่มขืนนางหน่อฉิ คือ นายชิตู่ ซึ่งได้หลบหนีไปหมู่บ้านใจโด่ง ฝั่งประเทศเมียนมา ตรงข้ามบ้านเปิงเคลิ่ง ตำบลแม่จัน อ.อุ้มผาง จากนั้น พ.ต.อ.สุพจน์ ได้ประสานกับฝ่ายปกครอง อ.อุ้มผาง ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 347 อ.อุ้มผาง และทหารกองร้อย ทหารราบที่ 432 หน่วยเฉพาะกิจราชมนู อ.แม่สอด ร่วมกันประสานเจ้าหน้าที่เมียนมา ในการกดดันจับกุมนายชิตู่ จนนายชิตู่ทราบข่าวจึงหลบหนีกลับเข้ามาเขตไทย และถูกฝ่ายปกครองในพื้นที่จับกุมได้